ควรเลือกกล้องวงจรปิดให้เหมาะสมกับสถานที่อย่างไร ?

กล้องรักษาความปลอดภัยเชิงพาณิชย์แบบเดินสาย

การติดตั้งกล้องประเภทนี้จะเน้นพื้นที่ ที่ต้องการความเสถียรภาพของสัญญานสูง ซึ่งจะมีทั้งแบบเดินสาย RG6 กับแบบเดินสายแลน การจัดเก็บข้อมูลจะใช้ฮาร์ดดิสก์ในการจัดเก็บเนื่องจากจำนวนกล้องมากและต้องการจัดเก็บเป็นระยะเวลานาน การติดตั้งจะนิยมในพื้นที่ทรัพยสินถาวรขนาดใหญ่ ไม่แนะนำติดตั้งพื้นที่เช่า และระบบเดินสายยังยากต่อการแฮ็กเนื่องจากอยู่ในระบบเครือข่ายปิด แม้จะไม่มีโซลูชั่นใดๆจะปราศจากเหตุการณ์ 100 เปอร์เซ็น แต่รุ่นแบบมีสายจะมีความเสี่ยงต่ำกว่าเล็กน้อย

แบบเดินสาย RG6 :
จะเน้นการติดตั้งง่ายเพียงเสียบสายเข้ากับเครื่องบันทึกแล้วตั้งค่าเล็กน้อยแต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องสัญญานรบกวนและฟังก์ชั่นการทำงานน้อย ปัจจุบันยังเป็นที่นิยมอยู่เพราะง่ายสำหรับช่างติดตั้งเพราะไม่ต้องตั้งค่าอะไรมาก เพียงตั้งค่าการดูบนมือถือบนเครื่องบันทึกเท่านั้น แต่ก็เริ่มชลอตัวลงเนื่องจากกล้อง IP ราคาถูกลงและใช้งานง่ายขึ้น ฟังก์ชั่นการทำงานก็มากกว่าแบบเดินสาย RG6 และปัญหาของกล้องแบบ RG6 จะพบปัญหาของสัญญานรบกวนและภาพเป็นเส้นในระยะยาว
แบบเดินสายแลน :

กล้องที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันจะเป็นแบบ PoE(Power over Ethernet) ไม่ต้องเดินไฟไปที่กล้องเพียงจ่ายไฟผ่านสายแลนไปที่กล้องเพียงเส้นเดียว และฟังก์ชั่นการทำงานของกล้องประเภทนี้จะมีหลากหลาย อาทิ การบันทึกภาพพร้อมเสียง การพูดคุยโต้ตอบผ่านกล้อง  หมดปัญหาเรื่องสัญญานรบกวนผ่านสาย แต่ระยะทางจะสั้นกว่าแบบ RG6 แต่ปัจจุบันปัญหานี้ได้หมดไปแล้วเนื่องจากส่วนใหญ่จะใช้อุปกรณ์ประเภท Media Converter กับสาย Fiber Obtic ช่วยยึดระยะ

ด้านความปลอดภัย :

หากเน้นด้านความปลอดภัยการใช้งานกล้องประเภทเดินสายถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

กล้องรักษาความปลอดภัยเชิงพาณิชย์แบบไร้สาย

การติดตั้งกล้องประเภทนี้จะเน้นพื้นที่ ที่ไม่ต้องการเดินสายและติดตั้งง่าย ไม่ต้องกำหนดค่าใดๆ เพราะจะเป็นระบบอัตโนมัติ เพียงเสียบปลั๊กไฟให้ครบทุกอุปกรณ์ก็สามารถใช้งานได้ การจัดเก็บจะใช้ฮาร์ดดิสก์ในการจัดเก็บเหมือนกล้องแบบเดินสาย การบันทึกภาพจะดีเลย์กว่ากล้องแบบเดินสายเล็กน้อยและขึ้นอยู่กับระยะของสัญญานที่ติดตั้ง และกล้องประเภทนี้สามารถใช้งานแบบผสมได้ทั้งแบบไร้สาย และ เดินสายแลนร่วมกันได้ ซึ่งในแต่ละกล้องจะมีช่องเสียบสายแลนมาให้

ข้อดีของกล้องประเภทนี้ หากกรณีกล้องเสียหรือกล้องชำรุดสามารถลบกล้องเดิมและเพิ่มกล้องใหม่ได้โดยการจับคู่ได้เองง่ายๆ ไม่ต้องกำหนดหมายเลข IP ใหม่เพราะระบบจะกำหนดให้อัตโนมัติ

การปรับเปลี่ยนโหมดกลางคืนสามารถเปลี่ยนได้บนมือถือซึ่งสะดวกต่อการใช้งานโดยไม่ต้องไปตั้งค่าที่หน้าเครื่องบันทึก

ด้านความปลอดภัย :

กล้องไร้สายแบบเป็นชุด ยังคงเป็นทางเลือกด้านความปลอดภัยเพราะยังคงเป็นระบบเครือข่ายแบบปิด ถึงแม้กล้องจะเป็นไร้สายก็ไม่สามารถสแกนผ่านอุปกรณ์ใดๆภายนอกได้เพราะกล้องถูกจับคู่เข้ารหัสไว้กับเครื่องบันทึกชุดที่ใช้งานนั้นๆ

กล้องรักษาความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค

การติดตั้งกล้องประเภทนี้จะนิยมติดตั้งตามบ้านแบบเดี่ยวตามจุดที่ต้องการ การบันทึกจะบันทึกด้วยหน่วยความจำประเภท Micro SD Card ระยะเวลาการบันทึกจะมีจำกัดตามการรองรับได้สูงสุดของกล้องแต่ละยี่ห้อ ส่วนใหญ่จะประมาณ 128GB ถึง 512GB การตั้งค่าโหมดการทำงานต่างๆ ต้องทำบนมือถือเท่านั้น 

ด้านความปลอดภัย :

กล้องประเภทนี้ส่วนใหญ่จะไม่นิยมติดตั้งในพื้นที่เปิดหรือห่างไกลจากตัวบ้าน เพราะกล้องอาจถูกรีเซตค่าได้ที่ตัวกล้อง ก็สามารถนำไปใช้งานใหม่ได้โดยผู้ไม่หวังดีและคุ้นเคยกับกล้องยี่ห้อนั้นๆ หากต้องการให้กล้องสามารถนำไปใช้กับระบบเครือข่ายแบบปิดที่บันทึกรวมกับเครื่องบันทึกแบบใส่ฮาร์ดดิสก์ควรเลือกกล้องที่มีมาตรฐาน ONVIF ก็จะทำให้ระบบมีความปลอดภัยมากขึ้นกว่าติดตั้งแบบเดี่ยว

คำแนะนำการเลือกซื้อกล้องประเภทนี้ :

ควรเลือกซื้อกล้องที่มีช่องต่อสายแลน,ช่องต่อไฟ DC,ปุ่ม Reset,Onvif support เพื่อสะดวกในการใช้งานได้หลากหลายในอนาคต

9-1944
10-1944
11

กล้องสีกลางคืนแบบ Starlight

กล้องสีกลางคืนประเภทนี้เหมาะสำหรับพื้นที่ ที่ต้องดูภาพสีตอนกลางคืนและไม่ต้องการให้มีหลอดไฟแฟลช(white light led)หรือหลอดแสงอุ่น(warm light led)ส่องไปด้านหน้ากล้อง ซึ่งอาจทำความรำคาญให้บุคคลภายนอกและปัญหาเรื่องแมลงหน้าเลนส์กล้อง โดยการทำงานจะมีประสิทธิภาพที่สุดจะต้องเป็นชิบแท้จาก SONY เท่านั้น ปัจจุบันสามารถมองเห็นภาพในที่มืดได้ถึง 0.0001 Lux ซึ่งคุณลักษณะพิเศษของกล้องประเภทนี้สามารถดูดแสงจากดวงจันทร์หรือแสงจากรอบข้างได้ดี ระยะการมองเห็นจะไม่จำกัด การติดตั้งกล้องประเภทนี้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดควรหันหน้ากล้องให้เห็นท้องฟ้าเล็กน้อย

มาตรฐานกล้องของบริษัทเราจะเพิ่มส่วนการทำงานโหมดอินฟราเรดเพื่อลดจุดด้อยในพื้นที่มืดสนิทที่กล้อง Starlight ไม่สามารถมองเห็นภาพได้

สำหรับกล้อง Starlight ของบริษัทเราจะมี 2 แบบ :

ขนาดเลนส์ 3.6mm F1.0 (ตอนกลางคืนจะสว่างกว่าแบบ Starlight ทั่วไป 2 เท่า)

ขนาดเลนส์ 3.6mm F2.0 (Starlight แบบสว่างปกติ)

ข้อแตกต่างระหว่างเลนส์ 3.6mm F1.0 กับ 3.6mm F2.0

ความคมชัดและการใช้งานทุกอย่างจะเหมือนกันยกเว้น F1.0 รูรับแสงจะกว้างกว่าทำให้ได้ภาพสีในตอนกลางคืนที่สว่างกว่า F2.0 เท่านั้น

ด้านราคา : ที่ความละเอียดเดียวกัน F1.0 ราคาจะสูงกว่า F2.0 เล็กน้อย

ค่า F1.0 กับ 2.0 : เป็นขนาดของรูรับแสงไม่ใช่ขนาดของเลนส์กล้อง ยิ่งค่า F น้อยรูรับแสงจะกว้าง

สินค้าที่บริษัทจัดจำหน่ายจะมี 2 ขนาดความละเอียด 2MP,5MP :

ชุดกล้องสีกลางวัน/กลางคืน F1.0 Sony Super Starlight Plus III 2 ล้านพิกเซล (One Way Audio)

ชุดกล้องสีกลางวัน/กลางคืน Sony Super Starlight Plus II 5 ล้านพิกเซล (Two Way Audio)

ชุดกล้องสีกลางวัน/กลางคืน F1.0 Sony Super Starlight Plus III 5 ล้านพิกเซล (Two Way Audio)

ฟังก์ชั่นใหม่ : เปลี่ยนโหมดกลางคืนได้ถึง 5 โหมด

– Full Color Starlight : โหมดสี Starlight
– Full Color Spotlight : โหมดสี 24 ชม. ด้วยไฟ Spotlight
– Black and White : โหมด IR ขาวดำ
– Smart Alert : โหมด IR ขาวดำเมื่อตรวจจับจะมีหลอดไฟ Spotlight เตือนผู้บุกรุก
– Smart Infrared : โหมดสี Starlight เมื่อมืดสนิทจะเปลี่ยนเป็น IR อัตโนมัติ

กล้องสีกลางคืน Starlight ไร้สาย

🔥รุ่นใหม่ล่าสุด : ปลดล๊อคฟังก์ชั่นการทำงานของกล้องสี Starlight🔥
📣🔈 มีไมค์พร้อมลำโพงในตัว “ บันทึกเสียงและคุยโต้ตอบได้ ”
✅ ให้ภาพสีทั้งกลางวันและกลางคืน คุณภาพมาตรฐานสากล
✅ หมดปัญหาเรื่องแมลงหน้ากล้องในโหมดสีโดยไม่ต้องใช้หลอดไฟ LED ส่องให้เป็นสี
✅ Optical Zoom 4 เท่า
✅ กล้องหมุนตามการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ และหมุนกลับตำแหน่งแรกอัตโนมัติแบบ 3D Human detect (รุ่น PTZ)
✅ ระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวมนุษย์แบบ 3 มิติ(3D Human detect) (รุ่น PTZ)
✅ ตั้งจุดหมุนกล้องได้ไม่จำกัด (รุ่น PTZ)
✅ เปิด/ปิด เสียงเตือนผู้บุกรุก (เสียงไซเรน/เสียงสุนัข)
✅ บันทึกเสียงและคุยโต้ตอบได้
✅ สามารถเปลี่ยนโหมดกลางคืนได้ 3 โหมดด้วย Dual IR Array 2 ดวงใหญ่
– Full Color Starlight : โหมดสี Starlight
– Black and White : โหมด Starlight IR ขาวดำ
– Smart Alert : โหมด IR ขาวดำเมื่อตรวจจับภาพจะเปลี่ยนเป็นสีแบบไม่ต้องใช้ไฟส่องและเปลี่ยนกลับเป็น IR อัตโนมัติ (ฟังก์ชั่นใหม่)
✅ ดูผ่านมือถือได้พร้อมกันหลายเครื่อง (ไม่จำกัด)
✅ ตัวกล้องเป็นโลหะสามารถติดตั้งได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร มาตราฐานกันน้ำ IP66
✅ รองรับ Micro SD Card สูงสุด 128GB (แนะนำใช้ของแท้จากทางร้าน)
✅ รองรับสัญญานไร้สายแบบ 5G
✅ ระยะอินฟราเรด/ไฟส่องสว่าง 2 ดวงระยะ 30 เมตร (รุ่น Bullet)
✅ ช่วงการหมุนแพน: 0-355 °, ช่วงการหมุนเอียง: 0-90 ° (รุ่น PTZ)
✅ ระยะอินฟราเรด/ไฟส่องสว่าง 6 ดวง ระยะ 50 เมตร (รุ่น PTZ)
✅ กล้องรองรับเครื่องบันทึกแบบ IP Camera ได้ทุกยี่ห้อ (ONVIF)
✅ ไม่สามารถนำไปจับคู่กับกล้องไร้สายแบบเป็นชุดได้ แต่สามารถเพิ่มกล้องได้โดย สแกนผ่านเครือข่าย
✅ สามารถดูผ่านมือถือทั้งระบบ Andriod , IOS ฟรีตลอดชีพ ด้วย APP : CamHi
✅ ประเภทกล้อง : ใช้งานได้ทั้งแบบไร้สายและเดินสายแลน
✅ คู่มือติดตั้งกล้องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
🔥 รองรับการบันทึกและดูกล้องผ่านคอมพิวเตอร์พร้อมกันได้ถึง 16 กล้องโดยไม่ต้องใช้ NVR (Windows Client Program)

กล้องสีกลางคืนแบบไฟ Spotlight

กล้องสีกลางคืนประเภทนี้เหมาะสำหรับพื้นที่ ที่ต้องดูภาพสีตอนกลางคืนโดยไม่คำนึงถึงหลอดไฟส่องให้เป็นสี แต่ข้อดีของกล้องประเภทนี้จะมีระบบเตือนภัยบุคคลภายนอก ได้หลายรูปแบบอาทิ แจ้งเตือนผ่านแอป ผ่านไลน์ เตือนด้วยไฟสปอร์ตไลท์ เตือนด้วยเสียงไซเรน  และสามารถเปิดไฟสปอร์ตไลท์ตลอดเวลาในจุดที่ต้องการใช้แทนหลอดไฟในตอนกลางได้อีกด้วย การทำงานในโหมดนี้จะเป็นแบบเดียวกับกล้อง ColorVu หลอดไฟจะดับเองเมื่อมีแสงจากภายนอกเพียงพอ

ระยะการมองเห็นจะจำกัดระยะทางตามความสว่างของหลอด LED หรือ หลอด IR โดยปกติจะอยู่ที่ 20-60 เมตรซึ่งเพียงพอต่อการใช้งาน

การติดตั้งกล้องประเภทนี้จะติดตั้งง่ายด้วยตัวเองเพราะเป็นระบบอัตโนมัติเพียงทำปลั๊กไฟรอไว้ในแต่ละจุดและเสียบปลั๊กไฟให้ครบทุกอุปกรณ์ และทำตามคู่มือเล็กน้อยก็สามารถติดตั้งได้เอง หากกังวลด้านการติดตั้งสามารถหาช่างติดตั้งใกล้บ้านได้ไม่ยาก

สินค้าที่บริษัทจัดจำหน่ายจะเป็นแบบไร้สายมี 2 ขนาดความละเอียด :

ชุดกล้องกลางคืนไร้สาย H.265+ 3 ล้านพิกเซล 4-10 ตัว (Two Way Audio)

รองรับการเชื่อมต่อกล้องได้สูงสุด 10 กล้อง

ชุดกล้องกลางคืนไร้สาย H.265+ 5 ล้านพิกเซล 4-10 ตัว (Two Way Audio)

รองรับการเชื่อมต่อกล้องได้สูงสุด 10 กล้อง

ฟังก์ชั่นใหม่ : เปลี่ยนโหมดกลางคืนได้ถึง 4 โหมด

  1. Full color night vision : โหมดสี 24 ชม. ด้วยไฟ Spotlight
  2. Full color night vision off : โหมดสีแบบใช้ไฟภายนอก (ปิดการทำงานของหลอดไฟ) ต้องมีแสงภายนอกเท่านั้น
  3. Infrared night vision : โหมดอินฟราเรดอัตโนมัติ
  4. Smart Infrared : โหมดอินฟราเรดอัตโนมัติเมื่อตรวจจับจะมีหลอดไฟ Spotlight เตือนผู้บุกรุก(ภาพสี)
error: Alert: Content is protected !!