คำถามทั่วไป ?

CCTV ย่อมาจาก Closed Circuit Television หมายความว่ากล้องหนึ่งตัวขึ้นไปเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บันทึกและตรวจสอบได้

หากคุณต้องการปกป้องธุรกิจ บ้าน หรือทรัพย์สินส่วนตัวอื่น ๆ ของคุณ กล้องวงจรปิดไม่เคยสามารถเข้าถึงได้เท่านี้มาก่อน ด้วยราคาที่ย่อมเยา ติดตั้งง่าย และเทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณได้ภาพระดับ HD ตอนนี้จึงเป็นเวลาที่ดีในการลงทุนกับระบบกล้องวงจรปิด ทำงานร่วมกับระบบสัญญาณกันขโมย กล้องวงจรปิดช่วยยับยั้งมิจฉาชีพได้เป็นอย่างดี หากคุณกำลังต้องการซื้อกล้องวงจรปิดสำหรับธุรกิจของคุณ มีเหตุผลอีกมากมายที่คุณควรติดตั้งไว้ ด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิดในสถานที่ธุรกิจของคุณ คุณจะสามารถช่วยรับรองความปลอดภัยของพนักงานและลูกค้าของคุณ รักษาความปลอดภัยรอบ ๆ คลังสินค้า ปกป้องทรัพย์สินของคุณ หรือแม้แต่จับตาดูพนักงานของคุณ

DVR ย่อมาจาก Digital Video Recorder ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่บันทึกวิดีโอของกล้องวงจรปิดลงในฮาร์ดดิสก์ตั้งแต่หนึ่งตัวขึ้นไป มีการเชื่อมต่อ BNC จำนวนหนึ่งเพื่อเชื่อมต่อกับกล้อง DVR ของเราสามารถรองรับ 4, 8, 16 และ 32 ช่องสัญญาณ (การเชื่อมต่อ) บนพอร์ต BNC

NVR ย่อมาจาก Network Video Recorder ซึ่งเป็นอุปกรณ์บันทึกกล้อง IP NVR มีฟังก์ชันการทำงานแบบเดียวกับ DVR เนื่องจากบันทึกฟุตเทจของกล้อง CCTV แต่ปรับแต่งมาสำหรับกล้อง IP CCTV

กล้องวงจรปิดใช้เพื่อดูและตรวจสอบพื้นที่เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย

กล้อง IP เป็นเทคโนโลยีล่าสุดในกล้องวงจรปิดและสามารถให้ความละเอียดสูงกว่ากล้องวงจรปิด HD มาตรฐาน พวกเขาส่งสัญญาณดิจิตอลเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับสวิตช์บนเครือข่ายท้องถิ่น เนื่องจากสิ่งเหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกับสวิตช์ได้โดยตรง คุณจึงสามารถเรียกใช้ระบบ IP CCTV ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ได้

กล้อง IP ของเราติดตั้งค่อนข้างง่าย เพียงเชื่อมต่อกล้องของคุณด้วยสายเคเบิลเครือข่ายกับ NVR และตรวจสอบให้แน่ใจว่า NVR เชื่อมต่อกับเราเตอร์แล้ว ภาพจะใช้เวลาประมาณ 30 วินาทีในการแสดง หากไม่ได้เชื่อมต่อกล้อง IP กับ NVR โดยตรง คุณสามารถใช้สวิตช์ POE เพื่อจ่ายไฟให้กับกล้องได้ เมื่ออยู่ในเครือข่าย คุณจะต้องเรียกใช้ตัวเลือกการค้นหาในเมนู NVR และเลือกกล้องที่คุณต้องการเพิ่มลงในระบบ

สายเคเบิลเครือข่ายอีเทอร์เน็ตประกอบด้วยคู่บิดเกลียวหลายคู่อยู่ภายในปลอกหุ้มด้านนอก ในบางเครือข่ายสามารถถ่ายโอนพลังงานผ่านคู่หนึ่งชุดไปยังอุปกรณ์จ่ายไฟ ซึ่งเรียกว่า PoE (Power over Ethernet) กล้อง IP DKView ใช้ระบบ PoE จ่ายไฟผ่านแลนเพียงเส้นเดียว ประหยัดทั้งเวลาและความพยายามโดยไม่ต้องเดินสายไฟไปที่ตัวกล้อง

เมื่อรับชมจากระยะไกล สิ่งสำคัญคือต้องมีความเร็วในการอัปโหลดที่ดี เนื่องจากคุณจะต้องสตรีมวิดีโอจาก NVR/DVR ด้วยเหตุผลนี้ เราจะบอกว่า 2mb ต่อกล้องควรเป็นความเร็วขั้นต่ำในการอัปโหลดที่จำเป็นสำหรับการดูระยะไกล ปัจจุบันปัญหาหมดไปแล้วเนื่องจากอีเทอร์เน็ตในปัจจุบันเป็น Fiber Optic ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศ หากพื้นที่ห่างไกลก็สามารถใช้แบบ Router ใส่ซิมเป็นทางเลือกได้

กล้องประเภทนี้จะเน้นเรื่องการติดตั้งและความสะดวกสบายของผู้ใช้งานเป็นหลัก แม้ไม่มีความรู้ก็สามารถติดตั้งได้ง่ายตามคู่มือ การแก้ปัญก็ไม่ยุ้งยากไม่ซับซ้อน  และลดต้นทุนในการเดินสาย

การทำงานของกล้องประเภทนี้  จะส่งภาพจากกล้องที่วางอยู่รอบๆ บ้านไปยัง NVR Wi-Fi กรณีกล้องชุดหรือ Wi-Fi ของบ้านกรณีเป็นกล้องเดี่ยว การส่งเป็นแบบไร้สายอย่างสมบูรณ์

เมื่อ NVR Wi-Fi หรือ Wi-Fi ของบ้าน รับสัญญาณแล้ว สัญญาณจะถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ ซึ่งสามารถดูฟุตเทจแบบเรียลไทม์หรือเก็บถาวรไว้ดูภายหลังได้ กล้องบางรุ่นมีการ์ด micro SD ในตัวซึ่งจัดเก็บฟุตเทจได้ในจำนวนที่จำกัด

หากไม่ต้องการเสียค่าบริการจัดเก็บบนคลาวด์ ควรเลือกแบบกล้องชุดที่สามารถใส่ฮาร์ดดิสก์ได้ เพราะกล้องแบบเดี่ยวที่ใส่ micro SD อาจไม่เพียงพอในการดูย้อนหลังเป็นระยะเวลานาน

กรณีไม่มีอีเทอร์เน็ต กล้องไร้สายแบบชุดจะสามารถดูภาพได้โดยต่อเข้าจอคอมหรือ TV ที่รองรับ(แบบ Offline) ส่วนกล้องแบบเดี่ยวจะไม่สามารถดูได้เพราะต้องดูผ่านแอปบนมือถือที่มีเน็ตเท่านั้น

กล้องแสงดาวคือกล้องที่สามารถมองเห็นวัตถุได้อย่างชัดเจนแม้แสงดาวจะส่องสว่างเพียงเล็กน้อยก็ตาม ซึ่งทำได้โดยใช้เซ็นเซอร์มาตรฐานแสงดาวเฉพาะ เช่น เซ็นเซอร์แสงดาวและเซ็นเซอร์ Sony Starvis
สายตาของมนุษย์ตีความการส่องสว่างที่ต่ำกว่า 20 Lux ว่าเป็นความมืดสนิท ด้วยกล้องแสงดาว แม้จะอยู่ที่ 0.0001 Lux คุณจะได้ภาพที่คมชัดเป็นพิเศษ นี่แปลว่าสามารถมองเห็นได้ใน “ความมืด”

  1. เลนส์ขนาด 1.4 mm. เป็นเลนส์มุมกว้างที่สุดโดยสามารถมองได้ถึง 360 องศาแต่ภาพที่ได้จะดูได้ลำบากเพราะเป็นภาพโค้ง หากต้องการดูแบบรวมๆก็แล้วแต่ความชอบของผู้ใช้งาน
  2. เลนส์ขนาด 2.8 mm. เป็นเลนส์มุมกว้างอีกชนิดที่เหมาะสำหรับติดตั้งภายในลิฟท์ หรือจุดที่ต้องการเห็นมุมที่กว้างขึ้นแต่ภาพที่ได้จะมีขนาดเล็ก
  3. เลนส์ขนาด 3.6 mm. กับเลนส์ขนาด 4 mm. เป็นเลนส์มาตรฐานที่นิยมใช้กับกล้องวงจรปิดทั่วไปมากที่สุด เพราะสามารถมองเห็นบริเวณโดยรอบได้ดี และภาพที่ได้จะใกล้เคียงกับความจริงมากที่สุด ซึ่งเลนส์ขาด 3.6 mm. จะกว้างกว่า 4 mm. เล็กน้อย ซึ่งหากมองผิวเผินจะไม่แตกต่างกันมาก เหมาะสำหรับติดตั้งใช้งานทั่วไป
  4. เลนส์ขนาด 6 mm. กับเลนส์ขนาด 8 mm. เป็นเลนส์มุมแคบ เหมาะสำหรับ ทางเดินหอพัก คอนโด อพาร์ตเมนต์
  5. เลนส์ขนาด 12 mm. ขึ้นไปใช้สำหรับมองในระยะไกล หรือต้องการโฟกัสเป็นจุดๆ

การแก้ปัญหากล้อง IP DKView

เครื่องบันทึกแบบ PoE หากไม่ได้เสียบสายแลนที่ช่อง WAN ไปที่เร้าเตอร์ไฟจะไม่ติดเพราะระบบ PoE จะไม่ทำงาน

1.หากไฟดับบ่อยๆ มีโอกาสที่หมายเลข IP กล้องจะเปลี่ยนได้ ให้ลบช่องเดิมที่มีปัญหา และทำการค้นหา IP แล้วเพิ่มใหม่

2.ใช้งานเครื่องบันทึกหลายยี่ห้อในพื้นที่เดียวกันมีโอกาสที่เครื่องบันทึกจะแย้ง IP ของกล้องเพราะอัลกอริทึมแต่ละยี่ห้อจะไม่เหมือนกัน

3.กรณี IP กล้องซ้ำหรือชนกัน

การแก้ปัญหากล้องชุดไร้สาย DKView

เมื่อต่ออุปกรณ์ครบหากไม่ได้ใส่ฮาร์ดดิสก์จะมีเสียงเตือนเป็นระยะและจะหายไปเองเมื่อใส่ฮาร์ดดิสก์

ปัญหานี้จะมีได้หลายสาเหตุหากใช้งานติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน

  1. ส่วนใหญ่เกิดจากอแดปเตอร์เสื่อมสภาพเนื่องจากการใช้งานปกติ ควรตรวจสอบทุกๆ 1 ปี ให้ทดลองหาอแดปเตอร์ DC12V ตัวใหม่มาเปลี่ยนทดแทน และควรมีขนาด >= 2A สำหรับเครื่องบันทึก หากเป็นกล้องจะใช้ DC12V ขนาด 1A
  2. ฮาร์ดดิสก์เสีย ให้ทำการเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ตัวใหม่

ปัญหาดูภาพย้อนหลังไม่ได้ส่วนใหญ่เกิดจากเครื่องบันทึกมองไม่เห็นฮาร์ดดิสก์หรือถ้ามองเห็นให้ทำการ Format หรือจัดรูปแบบใหม่ซึ่งข้อมูลจะถูกลบออกทั้งหมด หาก Format แล้วขึ้น error แสดงว่าฮาร์ดดิสก์เสียให้ทำการเปิดฝาเครื่องบันทึกแล้วทำการเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ตัวใหม่แล้ว Format ใหม่ทุกครั้งก่อนใช้งาน

ให้ตรวจสอบที่เครื่องบันทึกว่าขึ้นสถานะ Online หรือ Offline หากขึ้น Offline แสดงว่าเน็ตไม่เชื่อมต่อให้ทำการตรวจสอบสายแลนหรือการเชื่อมต่อแบบไร้สาย หากตรวจเช็คแล้วยัง Offline ให้ติดต่อผู้ให้บริการเน็ตนั้นๆ เพราะระบบจะรับเน็ตออโต้จากเร้าเตอร์เท่านั้นโดยไม่ต้องตั้งค่าใดๆ

  1. สัญญานไกลเกินไปหรืออยู่ในมุมที่มีสิ่งขวางกั้นจำนวนมาก ให้ปรับเสาให้ได้ระยะ หรือเปลี่ยนจุดติดตั้ง
  2. ใช้อุปกรณ์เสริม IPC Router ช่วยเพิ่มระยะทาง
  3. หากอยู่ในระยะใกล้แล้วเกิดปัญหาให้ทำการลบช่องที่ต่อกล้องออกแล้วจับคู่กล้องกับเครื่องบันทึกใหม่

1.ระยะของกล้องไร้สายของกล้อง DKView ครอบคลุมพื้นขนาด 1600 ตารางเมตรหรือประมาณ 40 เมตร โดยไม่ต้องต่ออุปกรณ์เสริมใดๆ ในสภาพพื้นที่มีผนังกั้นและอาจต้องใช้โหมดทวนสัญญานในบางจุด ซึ่งเป็นแบรนด์แรกที่สามารถรองรับได้สูงสุดถึง 10 กล้อง หากเกินระยะ 40 เมตร และต้องการติดตั้งกล้องในระยะ 50-100 เมตรแนะนำให้ติดในพื้นที่โล่งไม่มีผนังกั้น หรือใช้อุปกรณ์เสริม IPC Router เพื่อช่วยขยายสัญญานเป็นทางเลือกสุดท้าย

2.ปัจจัยที่มีผลกระทบกับกล้องไร้สายควรคำนึงถึงจุดติดตั้ง กระแสลม ฝน และสิ่งกีดขวาง หากติดตั้งภายนอกที่ไม่ใช่ภายในแบบอาคารปิด

3.ข้อนี้ถือเป็นทางเลือกสุดท้าย แต่ยังคงต้องการใช้งานในชุดเดียวกัน เมื่อต้องการติดตั้งกล้องในจุดที่ไกลเกินกว่าสัญญานกล้องสามารถแก้ไขได้ด้วยติดตั้งแบบไร้สายผสมกับแบบต่อสายแลนร่วมกับอุปกรณ์ Media Coverter และสาย Fiber patch cord สำเร็จรูป ซึ่งอุปกรณ์ Media Converter ปัจจุบันสามารถไปได้ไกลตั้งแต่ 1-30 กิโลเมตรที่ความเร็ว 10/100Mbps หรือ 10/100/1000Mbps

หลังจากต่ออุปกรณ์เรียบร้อยให้เพิ่มกล้องแบบค้นหาด้วยตัวเองแล้วเลือกโปรโตคอล N1 สำหรับกล้อง DKView กดเลือกกล้องที่มี IP 192.X.X.X เพราะ IP 172.X.X.X จะเป็นแบบไร้สายที่จับคู่แล้วในระยะที่สัญญานถึงเท่านั้น

error: Alert: Content is protected !!